วันนี้เราจะพาเพื่อนๆสมาชิกไป วัดศีรษะทอง จังหวัดนครปฐม วัดชื่อดังแห่งนครชัยศรี เพื่อทำบุญ ปัดเป่าสิ่งร้าย ๆ พร้อมกับรับสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตกันดีกว่าครับ เพราะที่วัดแห่งนี้ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องของ พระราหู ที่คนในพื้นที่รวมไปถึงสายมูบ้านเรานั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนใครที่ยังไม่รู้จัก วัดดังนครปฐม แห่งนี้ เราจะเป็นคนพาท่านไปทำความรู้จักกันเองครับ
ไหว้พระราหู วัดศีรษะทอง นครปฐม
ประวัติและความเป็นมาของ วัดศรีษะทอง
วัดเก่าแก่ ของนครชัยศรี เมืองนครปฐม อย่าง วัดศรีษะทอง แห่งนี้ เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของชาวลาวเวียงจันทน์ และชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เลยครับ จึงทำให้ที่นี่เต็มไปด้วย โบราณวัตถุ รวมถึงโบราณสถานสำคัญ ๆ เป็นจำนวนมาก และนอกจากนั้นยังมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวของดาราศาสตร์, โหราศาสตร์ และสมุนไพรต่าง ๆ มาตั้งแต่ในสมัยอดีตอีกด้วยครับ
ซึ่งวัดนี้ก็สร้างขึ้นมาจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวลาว โดยในตอนที่มีการขุดดินสำหรับสร้างวัดนั้น ก็ได้เจอกับเศียรพระทองจมอยู่ในดิน เลยได้มีการตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดหัวทอง แต่ต่อมาได้มีการขุดคลองเจดีย์บูชา แยกจากแม่น้ำนครชัยศรี เพื่อไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ สะดวกแก่การเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์มากกว่า และคลองนี้ผ่านพื้นที่ทางตอนใต้ของวัดหัวทองและหมู่บ้าน ชาวบ้านเลยย้ายมาอยู่ใกล้คลองเพราะสะดวกในเรื่องของการเดินทาง วัดนี้เลยย้ายมาอยู่ใกล้คลองเจดีย์บูชาและเปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดศีรษะทอง นั่นเอง
ในยุครุ่งเรืองของวัด ศีรษะทอง นั้น จะเป็นในช่วงสมัยของ หลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ ซึ่งท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ เนื่องจากท่านเป็นคนริเริ่มสร้าง พระราหูอมจันทร์ จาก กะลาตาเดียว เป็นเครื่องรางที่ได้รับความนิยมอย่างมากนั่นเองค่ะ ซึ่งก็สร้างชื่อเสียงให้กับ วัดศรีษะทอง เป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้
เปิดตำนาน พระราหู คืออะไร
ส่วนของ ตำนานพระราหู นั้น มีเรื่องเล่ากันว่า พระราหูนั้นคล้ายยักษ์ดุร้าย มีฤทธิ์มาก ผิวดำเหมือนิล สถิตอยู่ในอากาศล้อมด้วยม่านสีดำ มีร่างกายแค่ครึ่งเดียวเพราะจักรของพระนารายณ์ เหตุก็เพราะว่า ในระหว่างที่กำลังขโมยดื่มน้ำอมฤตอยู่นั้น พระอาทิตย์และพระจันทร์ได้มาเห็นเข้าเลยไปบอกพระนารายณ์ เป็นเหตุให้พระนารายณ์โกรธและขว้างจักรไปบั่นกายพระราหูทำให้ขาดครึ่ง แต่พระราหูนั้นไม่เป็นไร เพราะได้ดื่มน้ำอมฤตเข้าไป ครึ่งตัวเลยเป็นอมตะ
จากนั้นพระราหูโกรธแค้นพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่นำเรื่องไปบอกพระนารายณ์ เลยคอยเฝ้าจับพระอาทิตย์ และพระจันทร์กินอยู่เสมอ หรือที่เราเรียกว่า สุริยคราส และจันทรคราส พระราหูเลยเปรียบเหมือนความอมตะเพราะไม่มีวันตายนั่นเอง
ความน่าสนใจของวัด
โดยภายใน วัดศรีษะทอง จะมี พระราหูขนาดใหญ่ เอาไว้ให้ผู้ที่เดินทางมาได้สักการะบูชากัน และเชื่อกันว่า หากใครที่ได้ไหว้พระราหูแล้ว เชื่อว่าท่านจะช่วยปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี จะเกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีโชคลาภ และเจริญก้าวหน้า และยังร่ำรวยเงินทองอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีพระอุโบสถ ที่ตกแต่งด้วยลวดลายประณีตและงดงามซึ่งหาชมยากมาก บอกเลยว่าใครได้มาไหว้พระ ปัดเป่าภัยร้ายๆ แบบนี้ ก็ทำให้เราสบายใจขึ้นได้อีกเยอะเลย
วิธีการเดินทาง
หากเดินทางมาจาก กทม. แนะนำให้ใช้ถนนเพชรเกษม ขับตรงไปยังจังหวัดนครปฐม เมื่อมาถึงสี่แยกไฟแดง “ท่านา” ให้ขับผ่านสี่แยกไฟแดงตรงไป หลังจากนั้นเราจะเห็นทางเข้า วัดศรีษะทอง อยู่ทางด้านขวามือครับ จากนั้นให้เลี้ยวกลับรถ ซึ่งถ้านับจากทางเข้าริมถนนใหญ่ จะต้องขับรถเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อเห็นสะพานคอนกรีตด้านซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานไป จากนั้นจะได้เจอกับทางรถไฟ ซึ่ง วัดศรีษะทอง จะอยู่ทางด้านหน้าเราเลยครับ
ใครที่อยากไหว้พระราหู และต้องการเที่ยวนครปฐมไปในตัว ขอแนะนำให้ไปที่ วัดศีรษะทอง เพราะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องพระราหู เนื่องจากเป็นเจ้าตำรับแห่งแรกที่สร้างพระราหู และยังเป็นพระราหูองค์ใหญ่ที่สุด ในสมัยนั้น รวมถึงยังมีหลวงพ่อน้อย เกจิดังอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกกะลาตาเดียว อันศักดิ์สิทธิ์ จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในทุกวันนี้ สำหรับวันนี้ วัดดังนครปฐม ต้องขอตัวลาไปก่อน บทความต่อไปเราจะพาไปไหว้พระที่วัดไหน โปรดรอติดตามกันได้เลย